รักขึ้นอีก

เทคนิค: สีโปสเตอร์ (29.7×42 cm.)

แนวคิด: ความรักและสงคราม เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกัน แต่มันจะอยู่กันตลอดไป ทุกคนมักสัมผัสได้ถึงความรักมากที่สุด ผู้คน สิ่งของ ทรัพย์สินและตัวเอง เมื่อประสบพบเจอกับความขัดแย้งหรือการสูญเสีย ทำให้เราเห็นถึงคุณค่าของการมีอยู่ ที่อาจดับสูญไปโดยที่ไม่ได้เตรียมใจ เพราะความรักและสงครามอยู่ใกล้กันมากกว่าที่เราคิด

The Aftermath

เทคนิค: Digital art (29.7×42 cm.)

แนวคิด: ผลงานนี้ แสดงถึง aftermath หรือผลข้างเคียงของการเกิด สงคราม โดยแสดงถึง ตึกที่โดนทำลายและ รูปวาดหัวใจที่โดนทำลาย เพราะสงครามเป็นสิ่งที่ พรากความรักไปจากหลายอย่างและรูปหัวใจ นั้นก็ใช้การ spray เพราะว่าแสดงถึงว่าความรักนั้นเกิดมาจากมนุษย์และถึงแม้จะไม่ perfect แต่ก็ยังคงเป็นความรักอยู่ดี ทางด้านรอบรอบของตึกนั้นแสดงถึง เงาของสงครามที่มาจากมนุษย์เอง

Love is all

เทคนิค: สีอะคริลิคบนผ้าใบ (80×120 cm.)

แนวคิด: ในทุกช่วงเวลาของชีวิต ความสนุก ความเหนื่อย ความขัดแย้ง ความกลัว ความเศร้า ความทุกข์​ นั้นจะมีสิ่งหนึ่งเป็นมุมที่ทำให้ทุกอย่างดีงามได้เสมอ คือ ความรัก love is all

สงครามเหยื่ออารมณ์

เทคนิค: สีน้ำมันบนเฟรมผ้าใบ (60×80 cm.)

แนวคิด: ข้าพเจ้าได้มองเห็นความสำคัญของผู้หญิง รูปทรง สรีระ ความน่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นอิริยาบถเศร้า อิริยาบถที่ยั่วยวน จึงนำ เอามาถ่ายทอดลงในผลงานซึ่งในผลงานของข้าพเจ้าจะเปรียบเสมือนผู้หญิงคือกวาง ผู้ชายคือเสือ เสือที่ทำหน้าที่ล่ากวางยามหิวซึ่งเป็นวัฏจักร จากนั้นข้าพเจ้าก็เปรียบเสมือนกับความหื่นกามของผู้ชายที่ต้องการผู้หญิงบางอารมณ์ข้าพเจ้าจึงรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาผ่านจิตรกรรมสีน้ำมันบนเฟรมผ้าใบ

ศรัทธาแห่งรอยสัก

เทคนิค: สีอะคริลิค (60×40 cm.)

แนวคิด: แนวความคิดแรงบันดาลใจ ผู้สร้างสรรค์ได้แรงบันดาลใจจากรอยสักบนร่างกาย ในอดีตรอยสักเจาะร่างกายเป็นชายที่สร้างความเชื่อมั่นของตัวเองมาจนถึงปัจจุบัน โดยการใช้สีอคิลิคบนผืนผ้าใบเพื่อสร้างเส้นที่แตกต่างกันในเฉดสี ทั้งหมดนี้เพิ่มขึ้นผลของความเชื่อมั่นในตัวเองในรอยสักและจินตนาการของตัวเอง วัตถุประสงค์คือการศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อในการเจาะรอยสักของร่างกาย โดยการใช้สีอะคริลิคที่แตกต่างกันเพื่อสร้างเส้นมันมีผลต่อปริมาณของสีและพู่กันที่แตกต่างกัน เล่นตามจังหวะของเส้นทำให้รู้สึกดีขึ้น ในรูปแบบกึ่งสมจริง ปล่อยให้รอยประทับบนรอยสักที่เจาะร่างกาย และสมัยโบราณนั้นผู้จะมีรอยสักเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจเพื่อออกศึกกอบกู้ประเทศชาติ

ความรักจำเป็นต้องฆ่า เพราะคำบัญชาจากใครบางคน

เทคนิค: สีน้ำ สีเมจิก (30×42 cm.)

แนวคิด: ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายสองฝ่ายหรือมากกว่านั้นของกลุ่มบุคคล อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทำสงคราม และมีกลุ่มประชาชนภายใต้การควบคุมของผู้นำเกิดความเดือดร้อน การสูญเสียเพราะการตัดสินใจของผู้นำ บางคนที่มีเพื่อนหรือคนรักข้ามพรมแดนก็จำเป็นต้องไปเป็นกำลังรบให้ประเทศ ฆ่าฟันกันเอง อาจเกิดปัญหาต่างๆที่ส่งผลกระทบด้วยโลก ดังนั้น ผู้นำจำเป็นต้องมีทักษะ การเปลี่ยนแปลง การบริหารที่ดี การเป็นพันธมิตร เข้าใจกันและกัน แน่นอนว่าทุกคนต้องการอิสระและสันติ

Under the Red Sky

เทคนิค: Digital Art (3300×2550 cm.)

แนวคิด: ในยามค่ำคืนอันแดงก่ำดั่งเลือด คู่รักคู่หนึ่งต้องยอมพรากจากกัน

เย็นย่ำค่ำอัสดง

เทคนิค: ภาพพิมพ์แกะไม้ (woodcut) (30×39 cm.)

แนวคิด: ช่วงเวลาที่ได้ย้ายถิ่นฐานเข้ามาสู่เมือง เป็นช่วงที่ทำให้หวนกลับไปคิดถึงบรรยากาศในชนบทที่ทำให้เราสุขใจ แม้ไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่กลับเรียบง่ายสงบและเป็นธรรมชาติ ยิ่งยามพระอาทิตย์อัสดงเป็นช่วงที่ดิฉันอยากจะชมอยู่เช่นนั่นไม่อยากละสายตาไปไหนได้เลย

ศพสำอาง

เทคนิค: สีอะคริลิค (60×80 cm.)

แนวคิด: จากการจับสัตว์กระต่ายมาทดลองเพื่อผลิตเครื่องสำอางให้มนุษย์ได้ใช้อย่างสวยงาม แต่รู้ไหมว่า…กว่าจะได้เครื่องสำอางแต่ละชิ้น ต้องมีสัตว์สักกี่ตัวที่ต้องทรมานและเจ็บปวดจนตาย ดังนั้นผมจึงสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้เพื่อสะท้อนสังคมแง่คิดต่างๆให้หยุดทารุณกรรมสัตว์ จึงเล่าเรื่องของผลงานโดยมีเทพวีนัสซึ่งเป็นเทพแห่งความรักและความสวยงามกำลังมาช่วยเหลือเหล่ากระต่ายที่กำลังถูกนำมา ทดลองและต่อสู้ทำสงครามกับความงามที่ทารุณกรรมสัตว์ปราบหญิงสาวให้ตายในที่สุด

Love for the end

เทคนิค: illustration/ shading

แนวคิด: Love for the end ต้องการสื่อถึง ความรักที่จบสงคราม และยังสื่อความหมายของความยั่งยืนของความรัก ต่อให้ตายจากกัน ความรักก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม งานชิ้นนี้แสดงเหตุการณ์ที่ตัวละครหลักเสียสละตนเองรับลูกธนูจากกองทัพของตัวเอง เพื่อปกป้องคนรักที่อยู่อีกฝั่งของสนามรบ เป็นเหตุให้สงครามได้ยุติ

น้ำตานางเงือก

เทคนิค: ดิจิตอลอาร์ต (เซมิเรียลทับเส้น) (1922×3592)

แนวคิด: ได้มาจากการเป็นที่มีความชอบเป็นการวาดรูปแนวแฟนตาซีนำมาเป็นภาพของนางเงือกสาวผู้กำลังยิ้มสู้ เพราะถูกสงครามพรากคนรักไป

กุหลาบ​ลายพราง

เทคนิค: สีโปสเตอร์, สีไม้ บนกระดาษ (27.5×37.5cm.)

แนวคิด: ใช้ดอกกุหลาบ​ ซึ่งเป็นดอกไม้เเห่งความรัก ดอกไม้เป็นสิ่งสวยงามอ่อนโยน ลายพรางบนดอกกุหลาบ​สื่อถึงความเข้มแข็ง​ของทหาร สงคราม​ การสู้รบ กุหลาบลายพรางมีเลือดไหล สื่อถึงบางครั้งสงครามก็นำมาซึ่งความสูญเสียเลือดเนื้อเเละชีวิต ใช้นกสีขาวกำลังบิน สื่อถึงความปลดปล่อย​หลุดพ้นเป็นอิสระ​ ไม่มีกฎเกณฑ์​เเละพันธนาการ

วิถีไทยอิสาน

เทคนิค: สีน้ำบนกระดาษใยฝ้าย 300 แกรม (45×65 cm.)

แนวคิด: ภาพนี้ตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงชีวิตของคนอืสาน ซึ่งเป็นภาพที่สะท้อนถึงชีวิตจริงๆที่ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าได้เคยไปสัมผัสมา เป็นภาพที่ประทับใจมากที่สุด จึงได้เขียนภาพนี้ไว้เตือนใจซึ่งต่อไปในอนาคต ภาพแบบนี้คงหาชมได้ยากยิ่ง.

Birth of Venus/ AI Robot Evolution 2020 (กำเนิดวีนัส)

เทคนิค: Oil color on canvas (73×99 cm.)

แนวคิด: โรบอทหญิงสาว สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ที่ก่อเกิดขึ้นท่ามกลางหมู่สัตว์ต่างๆ แฝงซ่อนเร้นภัยอันตราย ภัยพิบัติ ในห้วงแห่งท้องทะเล มหาสมุทร ในโลยุคใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว

A female robot, a symbol of fertility. that occurred among the various beasts hidden dangers and disasters In the depths of the seas, oceans, in a new world has been born.

Bunker (หลุมหลบภัย)

เทคนิค: สีอะคริลิคบนผ้าใบ (24×30 cm.)

แนวคิด: ทุกครั้งที่เกิดสงครามไม่ว่าสงครามใดๆมีแต่ความสูญเสีย ไม่ว่าอย่างไรก็ตามความสุข ความรัก และความอบอุ่นปลอดภัยที่ยึดมั่นในใจเสมอ การเสียสละที่จะทำเพื่อ”ครอบครัว” ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันจะผ่านไปเพียงแค่ฝันร้ายเพราะจริงๆแล้วเราทุกคนคือครอบเดียวกัน ที่อยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้

ในหลวงรัชกาลที่9

เทคนิค: ศิลปะจากเส้นด้าย (string art) (80×80 cm.)

แนวคิด: ท่ามกลางวินาทีที่คนไทยทุกคนรับรู้ถึงการสวรรคตของนายหลวงรัชกาลที่9 ซึ่งเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย พลังเสียงการสวดมนต์เงียบสนิท กลายเป็นเสียงร้องให้ กรีดร้อง ของคนที่รู้สึกสูญเสีย ภาพเสื้อสีดำในวงกว้างที่ให้ความรู้สึกเศร้า กลับเหมือนสงครามเเห่งความรักที่เป็นความทรงจำจตลอดไป

มือผู้สร้างสรรค์

เทคนิค: สีน้ำบนกระดาษ Water Color on Paper (56×76 cm.)

แนวคิด: แรงบันดาลใจมาจากบุคคล ที่สร้างสรรค์สังคม ให้เกิดสิ่งดีงาม พวกเขามีมือ ที่วิเศษ เป็นมือของผู้สร้างสรรค์ ส่งเสริมประดับค่าให้แก่สังคม จนเป็นที่ยอมรับของคนไปทั่วโลก มือผู้สร้างสรรค์ย่อมสรรสร้าง ก่อเกิด และดึงดูดสิ่งดีงามประดับค่าโลก เฉกเช่นดอกไม้ที่เบ่งบานด้วยสีสัน ย่อมดึงดูดผีเสื้อมาดอมดมผสมเกสร เป็นความสัมพันธ์ของสองสิ่งที่ไม่อาจแยกขาดกันได้ ผู้สร้างสรรค์ย่อมต้องการผู้ชื่นชม ผู้ชื่นชมย่อมโหยหาสิ่งสร้างสรรค์เช่นกัน

บุษราคัม

เทคนิค: สีไม้บนกระดาษ (42×60 cm.)

แนวคิด: แนวคิดและแรงบันดาลใจของผม เกิดขึ้นจาก ต้นไม้ประดับชนิดหนึ่ง ที่ชื่อว่าบุษราคัม ความงามของบุษราคัม ที่มีสีส้มอมชมพู กลืนกินสีเขียวอย่างน่าอัศจรรย์ ให้ความรู้สึกถึงความนุ่มนวลและเข้มแข็ง สมดังชื่อบุษราคัม

โรยรา 4

เทคนิค: สีน้ำมันบนผ้าใบ (60×80 cm.)

แนวคิด: ทุกสรรพสิ่งล้วงต้องต่อสู้และเปรียนแปลงผ่านกาลเวลาผ่านยุคสมัยที่เปลี่ยนไป มีค่า ไร้ค่า สุดท้ายทุกอย่างจะกลับสู่ธุลี ไร่ซึ่ง.อัตตา คงเหลือเพียงอัตลักษณ์

ระเบิดความรัก

เทคนิค: Digital Art (100×100 cm.)

แนวคิด: ที่ไหนมีความรัก ที่นั้นย่อมไม่เกิดสงคราม

Heartbreaking bullet

เทคนิค: Digital art (2048×2048 cm.)

แนวคิด: สงครามสร้างความเจ็บปวดและความสูญเสีย ดั่งเช่นที่ว่าไม่ว่ากระสุนจะกระทบส่วนใด ก็ย่อมทำร้ายหัวใจของคนเสมอ

ก้าวผ่าน

เทคนิค: สีไม้บนกระดาษ/ สีน้ำ (42×59.4 cm.)

แนวคิด: ความรักนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม เมื่อเราได้พบเจอกับความรักที่ดีก็เหมือนได้เติมเต็มโลกทั้งใบของเราแต่เมื่อความรักนั้นเกิดความขัดแย้งขึ้นมาก็เปรียบเหมือนกับสงครามที่มีความสูญเสีย มีแต่แย่ลงจนทำให้ความรักนั้นจบลง แต่ถ้าเราอดทนก้าวผ่านสิ่งนั้นมาได้ความรักของเราก็จะ เหมือนกับดอกไม้ที่เบ่งบานสะพรั่งหลังฝนตกหนัก

Heart of war

เทคนิค: Acrylic on canvas pad (21×29.7 cm.)

แนวคิด: ภาพนี้อยากจะถ่ายทอดมุมมองของสงครามในเรื่องความรัก การแย่งชิงหัวใจของใครบางคน หรือแม้กระทั่งการเอาหัวใจตัวเองกลับคืนมา มันยากเหมือนเหล่าฝูงปลาที่แย่งชิ้นเนื้อในเบ็ดตกปลานั่นเอง

แด่เธอเสมอไป (for you forever)

เทคนิค: Painting

แนวคิด: ผมตั้งใจจะสื่อถึงความรักหวานช่ำที่ใครต่อใครฝันถึง แต่ความสุขนั้นย่อมอยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อเกิดความคัดแย้งระหว่างสองฝ่าย ที่เกิดขึ้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆแตาก็ไม่อาจหยุดความรักที่มีต่อกันของคู่รักที่ยอมสละทุกอย่างเพื่อให้อยูาด้วยกันอย่างมีความสุขแม้ต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม

ประสม 03.1

เทคนิค: ปากกาลูกลื่น, ดินสอสี บนกระดาษ 200 แกรม (35.5×38 cm.)

แนวคิด: –

Xí Jìnpíng

เทคนิค: วาดเส้น (29.7×42 cm.)

แนวคิด: ผู้นำสนติภาพโลกที่มีความหนักแน่น ช่วยนำพาความสุข สงบแก่พลเมืองโลก

To you… my dear

เทคนิค: Digital art (40×30 cm.)

แนวคิด: ภาพนี้ได้แรงบัลดาลใจมาจากเพลงๆนึง สื่อถึงความรักและสงครามที่มีความเหมือนกันคือ ความยุติธรรม ? ภาพนี้สื่อถึงเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ที่ไม่ยุติธรรมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งซึ่งเปรียบได้เป็นสงครามที่เอาเปรียบ โดยผู้ที่ยังรักต้องต่อสู้เผื่อยื้อความสัมพันธ์เอาไว้ ความรักที่สร้างมันขึ้นมาเพื่อที่จะทำลายลง โดยมีฝ่ายนึงต้องเจ็บซึ่งมันไม่ยุติธรรมสำหรับฝ่ายนั้นที่ต้องพยามคนเดียว สุดท้ายสงครามก็ต้องจบเมื่ออีกฝ่ายยื้อไม่ไหว ไม่ไหวที่ทำสงครามนี้ต่อ สงครามที่หาความยุติธรรมไม่เจอ…

โอบกอด

เทคนิค: จิตรกรรม สีฝุ่นบนพื้นดินสอพอง (50×85 cm.)

แนวคิด: ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพจิตรกรรมฝาผนัง จึงนามาผสมผสานกับสถานการณ์ของโลกในปัจจุบันที่มีการ แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส จึงต้องมีการปรับตัว และเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตนเอง การสวมหน้ากากอนามัย การเรียน ออนไลน์ ก็ยังมีหนุมานที่โอบกอดโลกไว้เพื่อป้องกัน และให้ความห่วงใย สื่อถึงความรักที่มีให้

The trees

เทคนิค: สีน้ำ (10×15 cm.)

แนวคิด: ความรัก เป็นสิ่งที่ทำให้โลกดูสวยงาม ทำให้โลกดูน่าอยู่ แต่สงคราม เป็นสิ่งที่ทำให้โลกเกิดความไม่สงบ เกิดความสูญเสียทั้ง 2ฝ่ายจนสุดท้ายไม่เหลืออะไรเลย ดังเช่นต้นไม้ 2 ต้นนี้ ต้นนึง เกิดจากการได้รับความรัก ทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตสวยงาม ต่างจากอีกต้นที่อยู่ในท่ามกลางภาวะที่เกิดสงคราม ต้นไม้ต้นนี้เกิดการสูญเสียโครงสร้างหรือปัจจัยที่ควรมีอยู่ของมัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความสูญเสียของต้นไม้ไปเรื่อยๆจนท้ายที่สุดมันได้ตายลงและไม่เหลืออะไรเลย

I love my guard

เทคนิค: ดิจิตอลอาร์ต (29.7×42 cm.)

แนวคิด: ละอองความรักของลูกที่เกิดขึ้นกับเเม่ ที่กำลังปฎิบัติภาระกิจที่เเสนสำคัญทั้งสองอย่าง เกิดเป็นเรื่องหน้ากลัวเเละหน้าขันในเวลาเดียวกัน ผ่านสายตาของลูกน้อยที่มีความสุขอยู่ในเหตุการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายของสงครามต่างเผ่าพันธ์ที่เกิดขึ้น

หลังคา

เทคนิค: สีฝุ่นบนเฟรมผ้าใบ (120×80 cm.)

แนวคิด: ข้าพเจ้าได้ถ่ายทอดความประทับใจ ร่องรอยจากการเสื่อมสลาย สภาพเเวดล้อมที่เรียบง่ายบนความธรรมดา ความเป็นเรื่องราวเล็กๆน้อยๆที่เกิดบนหลังคา ด้านเชิงบวก เเม้ธรรมดาเเต่อาจต้องเเปรผันไปตามเวลาบ่งบอกความงามอดีตกาลที่หลงเหลืออยู่ เป็น เรื่องราวของความเป็นพื้น บ้านเดิมที่มีความเปลี่ยนเเปลงไปตามกาลเวลาที่เปลี่ยนมาจนถึง ปัจจุบัน

Princess Peach

เทคนิค: สีน้ำมันบนผ้าใบ (60×80 cm.)

แนวคิด: แรงบันดาลใจหนูเป็นคนที่ชอบดูการ์ตูนและเล่นเกม ในภาพจำเราจะเห็นตัวเอกในการ์ตูนหรือเกมสมัยก่อนจะต้องต่อสู้กับตัวร้ายเพื่อความรัก หนูจึงอยากสื่อถึงความทรงจำในวัยเด็กของตัวเองผ่านตัวละครต่างๆที่หนูรู้จักเหมือนกับว่าเขากำลังต่อสู้กันโดยมีเหตุผลมาจากความขัดแย้งในเรื่องของความรัก โดยนำของเล่นของสะสมมาจัดสถานการณ์

จันทร์ฉาย

เทคนิค: สีอะคริลิ​ค​บนผ้าใบ (100×100 cm.)

แนวคิด: กลืน​แล้วคาย​

Life always has two sides.

เทคนิค: สีไม้ บนกระดาษ 80แกรม (26×38 cm.)

แนวคิด: กุหลาบเป็นดอกไม้แห่งความรักแต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นดอกไม้ของความสูญเสีย

กระสุนแห่งรัก

เทคนิค: Digital Art (22.86×22.86 cm.)

แนวคิด: ความรักที่เหมือนกับดาบ2คมสามารถใช้เพื่อผลักดัน ดูแลและปกป้องได้แต่อีกทางมันก็ใช้ทำร้ายเราได้เป็นเหมือนสงความในจิตใจคน ปืนที่เป็นการแสดงความรักยิงกระสุนที่เป็นคำว่ารัก ห่วงใย หวังดีออกไปใส่ศัตรูก็จะเป็นการปกป้องที่จริงใจ ไม่หวังผลปกป้องเราอย่างเต็มที่ทั้งจากคนรอบข้างที่ถือมันหรือตัวเราที่พยายามรักและปกป้องตัวเราเอง แต่ในบางครั้งกระบอกปืนกลับหันมาทำร้ายเราแทนหลายเหตุการณ์ที่เห็นได้มากขึ้นเรื่อยๆในสัมคมปัจจุบัน เพราะเป็นพ่อแม่ที่ห่วงใยและรักเร เขาเลยหาทางที่ดีที่สุดให้เราโดยลืมว่ามันทำร้ายเราอย่างไร เพื่อนที่รักมากๆแต่กลับหลอกใช้เราด้วยคำว่าเป็นเพื่อนรัก คนรักที่ทำร้ายจิตใจจนไม่เหลือที่ว่างให้บาดแผลใหม่แต่ก็ยังตัดกันไม่ได้เพราะคำว่ารักหลงหรือมัวเมากับคำพูดโดยลืมนึกถึงการกระทำที่ผ่านมา โดนยิงซ้ำๆมีแต่คราบน้ำตาความเศร้าความเสียใจแต่ในบางครั้งมันก็มีความสุขเป็นความทรงจำที่โอบล้อมความเจ็บปวดไว้จึงเลือกใช้สีเหลืองเป็นพื้นหลังและมีบาดแผลเป็นสีดำ ปืนมีเงาของสีส้มอ่อนๆที่แปลว่าห่วงใย ดวงตาที่เฝ้ามองลืมตาเพื่อจดจำทุกเรื่องราว มีความสุขจนท่วมท้นแต่บางครั้งก็เศร้าเสียใจจนร้องไห้และหลับตาหนีมันไป

Ramakien

เทคนิค: สีชอล์ค (29.7×42 cm.)

แนวคิด: ผลงานของผมได้แรงบันดาลใจมาจากรามเกียรติ์ซึ่งคนส่วนใหญ่เมื่อคิดถึงความรักในรามเกียรติ์ก็จะนึกถึงพระรามกับนางสีดาแต่ผมจะนึกถึงความรักของบิดามารดาหรือบุพการีโดยผมจะแทนความรักที่ทศกัณฐ์กับนางมณโฑและพี่น้องของอินทรชิตที่ให้ความรักและความห่วงใยต่ออินทรชิตเพราะว่าอินทรชิตต้องออกไปรบครับ ทั้งหมดที่ว่ามานี้มันคือความผูกพันของครอบครัว ความรักความห่วงใยครับ ส่วนสงครามผมจะแท่นศึกของพระรามกับทศกัณฐ์แต่ในศึกครั้งนี้ทศกัณฐ์ได้ส่งอินทรชิตมารบแทน ส่วนพระรามได้ส่งพระลักษณ์มาแทน จริงๆจะเห็นได้ว่า ถึงจะเกิดสงคราม ก็ยังมีความรักหลายๆแบบที่แฝงอยู่ครับ และอย่างสุดท้ายที่ผมได้นำเสนอมาในรูปแบบรามเกียรติ์เพราะตอนนี้เด็กสมัยใหม่ไม่ค่อยสนใจครับผมเลยอยากจะอนุรักษ์และรักษารามเกียรติ์ไว้ครับ

สู้ด้วยรัก

เทคนิค: สีโปสเตอร์ (30×42 cm.)

แนวคิด: เป็นภาพที่ส่งเข้าประกวดในหัวข้อ LOVE&WAR เราจึงได้เเนวคิดที่ว่าอะไรที่เราสามารถที่จะรักจนสามารถทำสงครามต่อสู้เพื่อมันได้เราเลยนึกถึงธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อมปัจจุบันปัญหาธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อมยังมีอยู่ต่อเนื่องผมจึงได้ถ่ายทอดภาพวาดออกมาสื่อถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่เขามีความรักต่อธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อมมากจนเขาสามารถที่จะต่อสู้กับกลุ่มคนที่ยังคงเมินเฉยต่อธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อมได้โดยถ่ายทอดออกมาลักษณะที่ผู้หญิงคนนี้มีการใส่ชุดเกราะเเละต่อสู้กับความทรุดโทรมของธรรมชาติ

You can’t blame me

เทคนิค: สีเมจิก+สีสเปรย์ (56×76 cm.)

แนวคิด: สำนวน All’s fair in love & war ในความคิดของอารมมันมีความหมายว่า ในแง่ของความรัก คุณจะทำอะไรก็ได้ สิ่งที่คุณทำนั้นมันยุติธรรมเสมอ แม้ว่าวิธีการของคุณมันจะสกปรกหรือแย่มากๆก็ตาม จากภาพจะเห็นได้ว่าผู้หญิงที่อยู่ในภาพเธอถูกชายคนหนึ่งที่เชื่อในประโยคสำนวนดังกล่าวกระทำ เขาคิดว่าจะทำร้ายเธอไม่ว่าทางใจหรือทางกายอย่างไรก็ได้ จากภาพทั้งสองเป็นคู่รักกันจากแหวนพันธนาการที่ผูกมัดไว้ไม่ให้จากกันไปไหนไม่ได้เพราะถึงแม้ชายคนนั้นจะทำร้ายเธอแค่ไหนแต่ก็ยังต้องการเธออยู่ดี ปกติดอกไม้มักแทนถึงสิ่งที่เป็นพลังงานบวกสื่อถึงความสวยงาม ถ้ากับภาพนี้ คงไม่ล่ะ ถึงแม้ดอกไม้ในภาพจะดูหลากหลายสีสันแต่ความหมายคือความเจ็บปวดหลากหลายรูปแบบและเป็นสิ่งที่ระเบิดหรือพลุ่งพล่านออกมาจากการที่ถูกชายอันเป็นที่รักทำร้ายมามากมาย ดีเทลของภาพนี้หากมองลึกลงไปจะเป็นการฆาตกรรมในโศกนาฏกรรมความรักโดยที่ตีความมาในโทนที่มีสีสันแต่แฝงไปด้วยสิ่งที่แย่ พูดถึงสีของมือชายในภาพทำไมไม่มีสีมันมีหมายความว่าชายคนนี้นั้นไร้ความรู้สึก ไร้ความเห็นใจต่อหญิงอันเป็นที่รัก(?) และพูดออกมาว่า “ you can’t blame me “ เพราะว่า “ All’s fair in love & war “ ไงล่ะ

ความสุขในโลกดิจิตอล

เทคนิค: โปรแกรม procreate (120×120 cm.)

แนวคิด: รูปนี้เป็นรูปที่ผมตั้งใจวาดขึ้นมาและเป็นครั้งแรกที่ตัดสินใจวาดรูปออกมาจากใจจริงของผมครับ ตามที่เห็นรูปจะมีเด็กคนหนึ่งที่ยืนร้องไห้นั้นคือผมในสมัยเด็กครับกับเจ้าหมาตัวโปรดของผมชื่อว่าเจ้าโอลิครับ ส่วนสองคนที่หันหลังให้ผมคือพ่อและแม่ของผมเองครับ และมันทำให้มีปัจจัยหลายๆอย่าง ที่ทำให้ผมเป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่เด็กซึ่งหนึ่งในนั้นคือปัญหาครอบครัวของผมเองครับ ผมเริ่มทำร้ายตัวเองและเริ่มไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้ ผมมองว่าโลกใบนี้มันโหดร้ายกับผมมากๆ ผมกลัวเวลาที่คนอื่นเห็นแผลที่แขนของผมหรือแผลที่ผมทำร้ายตัวเองมากๆครับ กลัวว่าทุกๆคนจะรังเกียจผมครับ ต่อให้พ่อและแม่พยายามกลับมาเติมเต็มผมด้วยสิ่งของมากมายแต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกดีใจเลยด้วยซ้ำ สิ่งที่ผมต้องการจริงๆคือ กำลังใจครับ ผมต้องสู้กับความคิดและความรู้สึกตัวเอง สู้กับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต และคนรอบข้างที่มองว่าโรคที่ผมเป็นอยู่มันเป็นโรคที่เรียกร้องความสนใจ ส่วนตัวผมเองที่วาดพวกพี่ๆเพื่อนๆขึ้นมาในโน๊ตบุ๊คคือพี่ๆที่ผมรู้จักจริงๆและคอยให้กำลังใจผมมาโดยตลอดถึงอาจจะมีทะเลาะกันบ้างแต่มันเป็นเวลาที่ผมมีความสุขมากๆครับ พี่ทุกคนคอยซัพพอร์ตผมทุกๆเรื่องครับ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เจอกันจริงๆแต่ผมกลับมีความรู้สึกว่าผมมีความสุขเวลาที่ได้คุยและได้ระบายกับพี่ๆครับ และตอนนี้ก็มีคุณย่าคอยดูแลผมอยู่และเพื่อนๆที่คอยช่วยผมในเรื่องที่ผมไม่ถนัดครับ ไม่ว่าจะเรื่องเรียน หรือเรื่องที่ผมกลัวมากที่สุด คือการเสียย่าและเจ้าโอลิที่ผมรักที่สุดไป แต่สุดท้ายมีพบก็ต้องมีจากครับ เมื่อถึงเวลานั้นเกิดขึ้นกับผมจริงๆผมคงจะตั้งสติไม่อยู่แน่ๆ แต่ผมสัญญากับย่าและตัวเองไว้แล้วครับ ว่าผมจะไม่ทำร้ายตัวเองอีก ผมเคยคิดว่าหากวันเวลามันสามารถย้อนกลับไปได้มันคงจะดีมากๆ แต่โลกใบนี้คือโลกแห่งความเป็นจริงครับ ผมทำได้เพียงแค่ฝันว่าวันและเวลาจะช่วยเยียวยาหัวใจของผมที่เป็นแผลให้หายสักวันนึง ถึงแม้มันอาจจะนานหน่อยแต่ผมเชื่อว่าถ้าผมสู้ต่อไปมันจะต้องหายแน่ๆครับ ทุกวันนี้ผมต้องกินยานอนหลับทุกวันตามที่หมอสั่งและผมหวังว่าเรื่องราวของผมและรูปของผมจะทำให้คนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือคนที่กำลังคิดว่าตัวเองเป็นแน่ๆ ผมอยากให้อยู่กับคนที่อยู่แล้วสบายใจที่สุดและคนที่อยู่ข้างๆคุณมาตลอดนะครับถึงแม้คุณอาจจะมองไม่เห็นใครเลยในวันที่มันมืดมนไปหมด ผมอยากบอกกับทุกคนว่าผมยังอยู่ตรงนี้นะ ไม่ว่าจะรู้จักกันหรือไม่รู้จักกันก็ตาม ผมขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนที่เป็นโรคนี้อยู่นะครับ สู้ๆนะทุกคนผมเชื่อว่าทุกคนเก่งอยู่แล้ว และสุดท้ายนี้ผมอยากจะขอบคุณกิจกรรมดีๆและรุ่นพี่ที่แนะนำกิจกรรมนี้ ทำให้ผมได้มาเจอกับทุกๆคนครับ ขอขอบคุณจากใจจริงครับ

Tun Dr. Mahathir bin Mohamad

เทคนิค: วาดเส้น (29.7×42 cm.)

แนวคิด: ผู้นำสนติภาพโลกที่มีความหนักแน่น ช่วยนำพาความสุข สงบแก่พลเมืองโลก

This life for the people

เทคนิค: ดินสอ, ปากกาหมึกดำ, ลงสีน้ำ (21×29.7 cm.)

แนวคิด: love and war นี้ค่อนข้างสอดคล้องกับสถานการณ์ยุคนั้นที่ไทย ถูกรุกรานจากระบบและต้องการมิตรประเทศเพื่อป้องกันอันตรายจากภัยคุกคาม เสด็จจึงไปเยี่ยมและปลอบขวัญชาวบ้าน ไม่เคยมีวันใดที่ท่านไม่คำนึงถึงประโยชน์สุขของคนไทย ความรักของท่านที่มอบให้กับปวงชนชาวไทยนั่นคือความสุขแท้จริงของพ่อแห่งแผ่นดิน

แสงดาวของเด็กน้อย

เทคนิค: สีน้ำมัน (70×90 cm.)

แนวคิด: ท้องฟ้ายามราตรี มีความงดงาม จะประกอบไปด้วย ดวงดาวนับล้านดวง แต่คงมีหนึ่งดวงที่ประทับใจคุณ..ตลอดเวลา.

Please no more war

เทคนิค: Digital paint (400×400 mm)

แนวคิด: ทุกสิ่งในโลกเกิดขึ้นจากมือของมนุษย์ สุดท้ายก็จะจบด้วยฝีมือของมนุษย์เช่นกัน Everything in the world is made by human hands In the end, it will end with human skills as well.

Dark fantasy war

เทคนิค: Woodcut (40×60 cm.)

แนวคิด: ผลงานชิ้นนี้เป็นภาพการต่อสู้กันของความคิดในจิตใต้สำนึกที่ความรู้สึกหวาดกลัวที่มีต่อสงครามเป็นภาพที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความฝันของศิลปิน (nightmare)

ไหม้เหลืออิสรภาพ

เทคนิค: สีอะคริลิคบนผ้าใบ (80×80 cm.)

แนวคิด: เราทุกคนนั้นรักเเละโหยหายความเป็นอิสรภาพจากชีวิตอยู่เสมอ ไหม้เหลืออิสรภาพนั้นจึงเป็นการ“สะท้อน”ให้เห็นถึงผลของสงครามที่”สเหมือน”โลกเเห่งการ พรากจากเเละทำลายล้างความรักเเละอิสรภาพ

Angle love of devil

เทคนิค: ใช้การลงสีเเบบทับเส้น ในไอเเพด (3799×3799 cm.)

แนวคิด: การที่รักใครสักคนไม่จำเป็นว่าคนคนนั้นจะเป็นคนเเบบไหนมาก่อน ถึงเเม้ว่าเขาจะเป็นคนไม่ดีที่รักเรามากๆ เขาพร้อมที่จัะเปลี่ยนทุกอย่างเพื่อนางฟ้าที่สวยที่สุดที่เขารัก ถึงเเม้ว่าความรักของเขาทั้งสองจะไม่สมหวัง เพราะ นางฟ้า และปีศาจ อาจไม่สามารถรักกันได้ การเลือกที่จะรัก หรือเลือกที่จะทำร้ายเขา เป็นสิ่งที่เลือกยากมากๆ สำหรับปีศาจตนนึง

ทางอยู่รอดและอนาคต

เทคนิค: สีน้ำบนกระดาษใยฝ้าย (38×55 cm.)

แนวคิด: สะท้อนความรู้สึกถึงวิถีชีวิตที่ดิ้นรนสู้ชีวิต ในสังคมบนโลกที่มีแต่จะเพิ่มมลพิษและะยันตรายรอบตัว

มิตรภาพแห่งการสัมผัส

เทคนิค: สีน้ำ&ปากกาหมึกดำบนกระดาษ (37×55 cm.)

แนวคิด: การสัมผัสเป็นสื่อในการส่งผ่านความรู้สึกนึกคิด ในสถานการณ์อันเลวร้าย ยังคงแฝงไปด้วยมิตรภาพแห่งการสัมผัสอันบริสุทธิ์ของเด็กน้อย

Gun & Guns

เทคนิค: Digitalpaint (1080×1350 cm.)

แนวคิด: สิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรจะหยิบยื่นให้แก่กันและกันนั้นก็คือ ความรัก

แด่ครอบครัวแห่งเสรี

เทคนิค: จิตรกรรมสีอะคริลิค (30×42 cm.)

แนวคิด: เป็นภาพความประทับใจแด่เพื่อนร่วมอุดมการณ์เปรียบเสมือนครอบครัว ที่ไม่เคยทิ้ง ห่างในยามทุกข์ยากและจะตราตรึงใจแก่เจตจำนงของทุกๆ คนตลอดไป

Give life

เทคนิค: วาดด้วยดินสอ และทับด้วยปากกาดำ (21×29.7 cm.)

แนวคิด: ภาพนี้สื่อถึงการให้หรือมอบ (ความรัก) ไม่ว่าจะเป็น ความรักที่มีให้สำหรับใครหลายๆคน (1) และความรักที่มีให้กันแค่สองคน (2) ตัวอย่างเช่น ความรักที่ในหลวงรัชการที่9มอบให้แก่ประชาชน(1), ความรักที่มีให้กันทั้งสองฝ่าย [สรุปสั้นๆ คือ แนวคิดในภาพนี้จะสื่อเหมือนกับซีรี่เรื่องหนึ่ง ที่มีชื่อว่า “ชีวิต..เพื่อชาติ รักนี้..เพื่อเธอ”]

ความปราถนา

เทคนิค: ปากกาลูกลื่น, สีไม้, สีอะคริลิค (21×29.7 cm.)

แนวคิด: สงคราม”การรุกรานที่มีการใช้ความรุนแรง การทำลายล้างและมีอัตราการเสียชีวิตไม่ใช่แค่การฆ่าฟันกัน บางครั้งมันอาจเป็นการแข่งขันกันในรูปแบบอื่น เมื่อมีการแข่งขันมันต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสูญเสียหรือผิดหวัง ซึ่งนั่นเกี่ยวข้องกับ”ความรัก”บางครั้งความรักนั้นอาจทำให้เกิดสงครามต่างๆเหล่านี้ได้ เมื่อไม่มีความรักกันและมีความเกลียดชังกันอยากชิงได้ชิงเด่นกันอาจทำให้เกิดการแข่งกันและเกิดสงครามในที่สุด

Still fighting it

เทคนิค: อะคริลิคบนแคนวาส (80×100 cm.)

แนวคิด: เมื่อเราต้องสู้กับสิ่งที่มองไม่เห็น ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ต้องเจอกับอะไรบ้าง ท่ามกลางความวุ่ยวายที่ไม่อาจจะรับมือไหว สิ่งสำคัญคือกำลังใจและการปรับตัวให้กลมกลืนกับสถานการณ์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เกราะแก้วที่คอยปกป้อง

เทคนิค: Digital Art (22.86×22.86 cm.)

แนวคิด: Love ที่เป็นความรัก ทั้งรักเพื่อน รักครอบครัว รักแบบคนรัก รักตัวเอง รักในทุกๆรูปแบบที่ถูกแทนโดยหัวใจที่มีเลือดของความสัมพันธ์ ความรู้สึกเป็นตัวหล่อเลี้ยง และ War ที่แปลว่าสงครามหรือการนำสิ่งไม่ดีออกไปอีกนัยคือการปกป้องใช้เกราะสีขาวเป็นสัญลักษณ์มีการสั่นไหวและบิดเบี้ยวไปบ้างเหมือนจิตใจที่ไม่มั่นคง ลูกศรใช้เป็นตัวแทนของการกระทำที่ทำร้ายความรักนั้นๆทำให้เกราะเกิดรอยร้าวหรือแตกทะลุไปบ้าง ประกอบได้แต่ก็อาจจะไม่เหมือนเดิมการโดนทำร้ายนานๆซ้ำๆก็อาจทำให้เกราะที่ร่วมสร้างกับคู่สัมพันธ์เกิดความเสียหายจนหัวใจที่สื่อถึงความรักเกิดการบาดเจ็บได้ อีกทางของเกราะแก้วมีสีที่ถูกเทราดใส่เป็นตัวแทนของการกระทำทางอ้อมที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ เช่น คำพูด ภาษากาย เป็นต้น อาจไม่ได้สร้างความเสียหายได้เท่าลูกศรแต่สีที่เททับซ้ำๆก็ทำให้เกราะยิ่งหม่นหมอง เปราะบางและบิดเบี้ยว สีที่ใช้เป็นตัวแทนของสาเหตุด้านต่างๆทั้งเรื่องของ เงินทอง เกียรยศ ความเหนื่อยล้าอ่อนแรง ความอิจฉา ปรารถนาที่จะครอบครอง (เขียวอ่อน / เหลืองเขียว) ความคิด ความสมเหตุสมผล จริงจัง ฐานะทางสัมคม (น้ำเงิน) ความทรงจำต่างๆ ความหวาดกลัว (สีเหลือง / เหลืองเข้ม) และความเศร้าเสียใจ (สีม่วง) ใช้สีดำแทนสังคมภายนอกและจิตใจฝ่ายหลงผิดที่โหดร้ายแต่ไม่ถึงกับมืดมนเห็นได้จากสีเทาที่ยังหลงเหลือ ใต้ลูกแก้วมีทั้งสีและลูกศรที่ยังคงอยู่และไม่เคยหายไปเหมือนเราที่ยังจดจำทุกๆเหตุการณ์

With love and blood.

เทคนิค: Painting (60×80 cm.)

แนวคิด: ผลงานชิ้นนี้ได้รับแนวคิดมาจากหัวข้อ Love and War ซึ่งทางตัวผู้จัดทำได้นำแนวคิดจากหัวข้อนี้มาตีความหมายตามมุมมองของตัวข้าพเจ้า ซึ่งได้ตีความออกมาเป็นในรูปแบบงานงานศิลปะประเภท Abstract หรืออศิลปะที่เป็นนามธรรม เพราะว่าในความคิดเห็นส่วนตัวนั้นมองว่าLove and War นั้นเป็นอะไรที่นิยามเป็นรูปร่างได้ยากและค่อนข้างที่จะซับซ้อนเลยทีเดียวจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทำผลงานออกมาในแนว Abstract ในส่วนของการการทำผลงานได้ทำแบบเพ้นท์ก่อน จากนั้นก็ใช้สีสเปรย์พ่นลงไปตามด้วยสีขาวแล้วใช้ลูกกลิ้งทั่วบนเฟรม ตามด้วยสีแดง,ฟ้า,เหลืองและกลิ้งให้ทั่วเฟรมอีกครั้ง จากนั้นใช้ด้ามแปรงขูดให้เป็นรอยทั่วๆเฟรมเพื่อเป็นการสื่อถึวความรุนแรงและใช้สีแดงโดยใช้กระบอกเข็มฉีดยาแล้วพ่นสีบนเฟรมเพื่อที่จะสื่อถึงสงครามที่เต็มไปด้วยเลือด และสุดท้ายก็ใช้สีสเปรย์เรืองแสงพ่น โดยใช้สีที่สดใสแทนความรัก

รักต้องสู้

เทคนิค: สีอะคริลิคบนเฟรมผ้าใบ (70×50 cm.)

แนวคิด: รักและสงครามในความคิดของข้าพเจ้าคือการต่อสู้ของชีวิตคู่ ที่ทำสงครามต่ออุปสรรค ความยากลำบากในชีวิตที่เข้ามา ต่อสู้ฝ่าฟันต่ออุปสรรค จนกว่าชนะสงครามไปถึงเป้าหมายและความสำเร็จต่างๆไปด้วยกัน โดยข้าพเจ้าได้นำผลงานออกมาในรูปแบบการทำสงครามโดยมีอาวุธเป็นพู่กัน เปรียบเสมือนอาวุธที่ข้าพเจ้าใช้ในต่อสู้กับการทำงาน และมีคนรักอยู่ข้างๆกัน ช่วยเหลือกัน ในการทำงานเปรียบเสมือนการร่วมกันต่อสู้ในสงครามของชีวิตไปด้วยกัน

เงือกสมุทร

เทคนิค: สีน้ำบนกระดาษใยฝ้าย (38×56 cm.)

แนวคิด: ความสวยงาม ความสุขหรรษา ผสมผสานกับความสมบูรณ์ของน้ำในท้องทะเลมหาสมุทร ฟองน้ำที่ร่ายรำไปตามลีลาของนาง

หิริโอตัปปะ

เทคนิค: Acrylic on canvas (50×70 cm.)

แนวคิด: สนามรบใด จะยิ่งใหญ่เท่า สนามรบในใจของเราเอง ความรักเกิดขึ้น ทำให้ฉันรู้สึกวูบวาบในท้อง เหมือนผีเสื้อนับพันพันตัวมันบินว่อนอยู่ในท้องของฉัน ถึงแม้ความรักจะสวยงาม ใช่ว่าจะจบลงด้วยความสุขเสมอไป การหยุดไม่ให้ความรู้สึกรัก มันครอบงำจิตใจ คิด ทบทวน ไตร่ตรอง ล่ะวาง ความรู้สึกวูบวาบนั้นลง แม้มันจะขัดกับความรู้สึก แต่มันคือความถูกต้องนี่แหละ สงครามที่ยิ่งใหญ่ในใจของฉัน

ความหวัง

เทคนิค: สีอะคริลิ​ค (100×100 cm.)

แนวคิด: จากสังคมปัจจุบันและที่ผ่านมาในมุมมองของผู้เขียนเอง มองในด้านความหวังที่จะได้เห็นสังคมไทยเรา เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปและมีความหวังในหลายๆด้านในสังคมปัจจุบันที่ผู้เขียนได้ดูและเห็น เหตุการที่ผ่านมาไม่ว่าข่าวสารจากทาง ทีวี หรือ สื่อออนไลน์ต่างๆแม้กระทั่งได้เจอและสัมผัสด้วยตนเอง ที่เขียนตัวละคร ลำตัวเป็นแมลง หัวเป็นหน้าคน ผมมองในเรื่องของชีวิตไม่ว่า มนุษย์(คน)หรือสัตว์(แมลง) ต่างก็มีชีวิตเหมือนกัน ชีวิตที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตให้รอดจากภัยต่างๆที่พบเจอในทุกขณะทุกช่วงเวลาของชีวิตและไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน กระต่ายกับเต่า ผมยกเอานิทานเรื่อง กระต่ายกับเต่า แข่งขันกันในการวิ่ง การกีฬา ผมมองในเรื่องของความสามัคคี มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เมื่อบ้านเมืองมีภัย ทั้งสองได้ร่วมมื้อร่วมแรงกันออกเดินทางตามหาชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งประชาชน ก็หวังที่จะได้เห็น ซึ่งความสามัคคี สู้ไปด้วยกันกับอุปสรรคโรคภัยต่างๆและภัยพิบัติทางธรรมชาติ

Old Untitled

เทคนิค: ปากกาลูกลื่น, ดินสอสี บนกระดาษ 300 แกรม (56×76 cm.)

แนวคิด: –

ผจญ (ภัย)

เทคนิค: สีน้ำ, สีโปสเตอร์ บนกระดาษ (40×50 cm.)

แนวคิด: เราจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า สิ่งที่ตามมา อันเป็นผลพวงจากสงคราม คือ ความโศกเศร้า ความสูญเสีย ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ความรักเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ และจะช่วยเยียวยาทุกสิ่งได้ โดยเฉพาะความรักจากครอบครัว

Stop the War

เทคนิค: สีน้ำมันบนผ้าใบ (60×80 cm.)

แนวคิด: สิ่งเดียวที่สามรถหยุดความโลภความรุนแรงการเข่นฆ่ากันแลาะกันคือความรักที่มนุษย์เคยมีให้กันอย่างไม่มีเงื่อนไขซึ่งนับวันมันจะจางหายลงไปทุกวัน

ดอกไม้พื้นที่แห่งความรัก หมายเลข 2

เทคนิค: สีน้ำบนกระดาษ (56×76 cm.)

แนวคิด: ดอกไม้เป็นตัวแทนของความรักและความงดงาม ในผลงานของข้าพเจ้าใช้ภาพของดอกกุหลาบมาแทนที่พื้นที่รูปร่างของอาวุธปืน เพื่อสื่อแสดงถึงความรัก ความสุข และความงดงาม ที่มีอยู่ในสภาวะที่ไร้ซึ่งสงคราม/ความรุนแรงใดๆ

สัจธรรมแห่งชีวิต หมายเลข 1

เทคนิค: สื่อผสม (100×75 cm.)

แนวคิด: ความรู้สึกในห้วงคานึง ที่ยึดโยงกันระหว่าง ความเป็นจริงที่ เป็นปัจจุบัน ขณะ เเละความจริงที่เป็นสัจธรรมเเห่งธรรมชาติการตระหนักรู้ใน คุณค่าของการมีชีวิตความเปลี่ยน เเปลงที่ทุกชีวิตไม่อาจหลบหนีการเข้าใจเเละยอมรับในกฎเเห่งกรรมที่ต้องเปลี่ยนเเปลงตาม ธรรมชาติที่เป็นความจริงเเท้ของชีวิตมนษุย์

หลังสงคราม

เทคนิค: สี​โปสเตอร์, สีไม้ บน​กระดาษ (37.5×41.5 cm.)

แนวคิด: ทหารช่วยเหลือลูกนกที่ยังบินไม่ได้ คำว่าทหาร เเม้หน้าที่จะต้องอดทน เข้มแข็ง​ เด็ดเดี่ยว​ พร้อมสู้รบด้วยความห้าวหาญ​อย่างไม่หวั่นเกรง เเต่หลังสิ้นสงคราม การช่วยเหลือทุกสรรพชีวิตด้วยความรักคือสิ่งมีค่าที่สุด ไม่ว่าชีวิตนั้นจะเป็นคนหรือสัตว์ก็ตาม เพราะทุกชีวิตมีผู้ที่รักอยู่ ลูกนกมีเเม่นกที่รัก ทหารมีครอบครัวที่รัก

ดอกไม้พื้นที่แห่งความรัก หมายเลข 1

เทคนิค:สีน้ำบนกระดาษ (38×56 cm.)

แนวคิด: ดอกไม้เป็นตัวแทนของความรักและความงดงาม ในผลงานของข้าพเจ้าใช้ภาพของดอกกุหลาบมาแทนที่พื้นที่รูปร่างของอาวุธปืน เพื่อสื่อแสดงถึงความรัก ความสุข และความงดงาม ที่มีอยู่ในสภาวะที่ไร้ซึ่งสงคราม/ความรุนแรงใดๆ

ตากับยาย

เทคนิค:สีน้ำบนกระดาษใยฝ้าย 300 แกรม (45×65 cm.)

แนวคิด: เมื่อคนเราได้เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ ชีวิตก็ต้องพบกับเรื่องราวมากมายหลากหลายแตกต่างกันออกไป มีทุกข์ สุข สมหวัง ผิดหวัง เสียใจ มีหัวเราะ มีร้องไห้ ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกรรม ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ก็จงรักษากรรมดีไว้ รักกันไว้ โดยเฉพาะคนที่ใกล้ตัว ไม่ทอดทิ้งกัน อยู่กันไปตนแก่จนเฒ่า ด้วยรักและผูกพัน จากใจ

บักหำน้อย

เทคนิค: สีอะคริลิ​ค (100×100 cm.)

แนวคิด: ชีวิตเด็กน้อยในชนบทอีสาน​ ต้องช่วย​ครอบครัว​ทำมาหากินตามวิถีถิ่นกำเนิด​

In My Heart

เทคนิค: สีอะคริลิคบนกระดาษปอนด์ (26×37 cm.)

แนวคิด: ทหารคนหนึ่งชีวิตก็เหมือนเปรียบเสมือนเทียนแท่งหนึ่งที่ส่องสว่างแสงให้คนอื่นเสียสละแต่ไม่รู้ว่าตัวเองจะดับมอดไปเมื่อใดจะด้วยหน้าที่ ก็ต้องจำยอมเเต่ ในใจเขาก็ยังจะนึกถึงแต่ครอบครัวลูกเมีย ความรักห่วงใยปนภาระหน้าที่

สงครามโลก และประเทศสยาม

เทคนิค: สีน้ำมัน (30×40 cm.)

แนวคิด: ผู้นำรัสเชีย เคยมาคุยกับในหลวงรัชกาลที่9เรื่องเมืองสีเขียว เกี่ยวกับการเพาะปลูก.. ส่วนวันนี้สงครามเกิดขึ้นไปอีกซีกโลก แต่บ้านเรายังอุดมสมบูรณ์ ด้วยอาหารการกิน ไม่แน่อนาคต สงครามทำให้อาหารการกิน ยาก ในประเทศสงคราม

สาววันศุกร์

เทคนิค: วาดเส้นดินสอ สีอะครีลิคบนกระดาษ(34×56 cm.)

แนวคิด: สาวเอยสาววันศุกร์ ความรักวุ่นสนุก หลากรส หลากสีสัน บ้างเปรี้ยว บ้างหวาน บ้างก็ขม ไม่เว้นวัน เป็นสีสันแห่งความรักชั่งสุขจริง สาววันศุกร์ภายนอกอ่อนหวาน ภายในนั้นแข็งแกร่งดั่งหินผา แม้นชายใดทำให้เสียน้ำตา คงถึงคราชีวาม้วยชีวี

Rebel with Rose

เทคนิค: Oil painting (25×30 cm.)

แนวคิด: ดอกกุหลาบคือสัญลักษณ์ของการต่อต้านเผด็จการ แทนการต่อสู้ของชนชั้นล่างรวมถึงอำนาจทุกระดับ ในภาพแสดงรูปนกสีขาวเป็นตัวแทนอิสระภาพที่ต้องได้รับการปลดปล่อยจากการถูกกดขี่จากบุคคลชั้นสูงที่มีอำนาจ ซึ่งแทนด้วยสัญลักษณ์ของนกชนิดเดียวกันเพียงแต่สวมมงกุฎและอยู่เหนือกรงที่กักขัง

ความรักและสงคราม

เทคนิค: ปากกาลูกลื่น (29×42 cm.)

แนวคิด: ภาพผู้หญิงกับดอกไม้สีแดงสื่อถึงความรัก โดยดอกไม้ปักอยู่ที่ปลายกระบอกปืนที่เป็นอาวุธเพื่อสื่อถึงการรบหรือการประหัตประหารกัน และใช้ในการต่อสู้ด้วยความรักในแผ่นดินเกิด รวมทั้งมีรถถังในภาพที่ใช้เป็นตัวแทนของสงคราม อีกทั้งใบหน้าของหญิงสาวที่มีหยาดน้ำตาสีแดง เพื่อแสดงถึงความโศกเศร้าที่เกิดความสูญเสียจากสงคราม รวมถึงมีความรักในแผ่นดินเกิด โดยใช้ภาพธงชาติ ประเทศยูเครนที่กำลังเกิดสงครามอยู่ในขณะนี้

สาววันจันทร์

เทคนิค: วาดเส้นดินสอ สีอะครีลิคบนกระดาษ (34×54 cm.)

แนวคิด: สาวเอยสาวจันทร์ หากรักใครนั้นดูหน้าตา ชอบคนในเครื่องแบบเป็นหนักหนา คนเก่งกล้าเธออยากคว้ามาครอง ข้าพเจ้าสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้โดยนำเสนอเรื่องราวความรักของผู้หญิงที่เกิดในแต่ละวันตามจินตนาการและความรู้สึกโดยถ่ายทอดผ่านงานศิลปะ

This Side of Paradise

เทคนิค: สีอะคริลิค (60×80 cm.)

แนวคิด: ถ้าหากโลกนี้ไร้ซึ่งมนุษย์ แต่มีเพียงดอกไม้ โลกนี้จะยังมีสงครามอยู่หรือไม่? ดอกไม้ที่งอกงามขึ้นมาบนโลกใบเดียวกัน แม้จะคนละสายพันธุ์กัน แต่ก็อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติและสวยงาม เช่นนั้นเหตุใดมนุษย์ที่เรียกตัวเองเป็นสัตว์ประเสริฐถึงอยู่ร่วมกันอย่างสันติบนโลกใบเดียวกันไม่ได้เสียที